รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว
เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง และตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยดำเนินการภายใต้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
การเดินทางถ้ามาจากเมืองเชียงใหม่ไปตามถนนห้วยแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 121 ไปอำเภอหางดง ประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประกอบด้วย ส่วนแสดงสัตว์ และ ส่วนที่พักรีสอร์ท
ส่วนแสดงสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แบ่งได้ 3 จุดย่อย ดังนี้
จุดแรก คือ Jaguar Trail ซึ่งมีทะเลสาบ (Swan Lake) ขนาดระยะทาง 1.2 กม. ไว้ให้เดินพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ระหว่างทางจะพบกับสัตว์ป่ามากกว่า 400 ตัว หรือ 50 ชนิด อาทิเช่น เสือขาว เสือจากัวร์ หนูยักษ์คาปิลาลา เสือลายเมฆ สมเสร็จบราซิล ม้าแคระ ฮิปโปแคระ ลิงอุรังอุตัง เสือดำ ฯลฯ
จุดที่สอง คือ Predator Prowl เป็นจุดแสดงสัตว์ป่าประเภทสัตว์กินเนื้อ ซึ่งเป็นสัตว์นักล่าที่มีความดุร้าย ประมาณ 200 ตัว อาทิเช่น เสือโคร่งขาว เสือโคร่งอินโดจีน เสือโคร่งเบงกอล สิงโต หมาป่า หมีควาย เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้โดยนั่งรถขนาด 60 ที่นั่งเป็นระยะทาง 2.13 กม.
จุดที่สาม คือ Savanna Safari ส่วนแสดงสัตว์ป่าประเภทสัตว์กีบและสัตว์กินพืชที่มีถิ่นอาศัยในแถบทุ่งหญ้าสะวันนา ประมาณ 320 ตัว อาทิเช่น เลียงผา กวางผา กระทิง แรดขาว ไฮยีน่า เสือชีต้า ฯลฯ โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะพบกับสถาปัตยกรรมจำลองเวียงกุมกาม ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และในพื้นที่ส่วนบริการจะเป็นหมู่บ้านล้านนา ซึ่งเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่ผสมผสานระหว่างแอฟริกาและไทยล้านนา ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร ศูนย์รวมสินค้า ของที่ระลึก และเป็นสถานีรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปยังส่วนแสดงสัตว์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับลานน้ำพุดนตรี (Fun Plaza) บริเวณด้านข้างของอาคารอีกด้วย
ในส่วนของอัตราค่าเข้าชม ค่าตั๋วช่วงเวลาเวลากลางวันจะถูกกว่าช่วงเวลากลางคืน โดยช่วงกลางวัน ค่าเข้าชมของคนไทย ผู้ใหญ่อยู่ที่ 50บาท และเด็ก 25บาท ในขณะที่ ช่วงกลางคืนค่าเข้าชมของคนไทย ผู้ใหญ่อยู่ที่ 250 บาท และเด็ก 125 บาท
นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถมาได้ตามเวลาเข้าชม ดังนี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-16.00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00 ส่วนช่วงกลางคืน เวลา 18.00-24.00 น. เปิดทุกวัน อีกทั้งยังมีบริการบ้านพักและสถานที่ตั้งเต็นท์พักแรมสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 05-399 -9079 หรือ เว็บไซต์ www.chiangmainightsafari.com
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง และตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยดำเนินการภายใต้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
การเดินทางถ้ามาจากเมืองเชียงใหม่ไปตามถนนห้วยแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 121 ไปอำเภอหางดง ประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประกอบด้วย ส่วนแสดงสัตว์ และ ส่วนที่พักรีสอร์ท
ส่วนแสดงสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แบ่งได้ 3 จุดย่อย ดังนี้
จุดแรก คือ Jaguar Trail ซึ่งมีทะเลสาบ (Swan Lake) ขนาดระยะทาง 1.2 กม. ไว้ให้เดินพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ระหว่างทางจะพบกับสัตว์ป่ามากกว่า 400 ตัว หรือ 50 ชนิด อาทิเช่น เสือขาว เสือจากัวร์ หนูยักษ์คาปิลาลา เสือลายเมฆ สมเสร็จบราซิล ม้าแคระ ฮิปโปแคระ ลิงอุรังอุตัง เสือดำ ฯลฯ
จุดที่สอง คือ Predator Prowl เป็นจุดแสดงสัตว์ป่าประเภทสัตว์กินเนื้อ ซึ่งเป็นสัตว์นักล่าที่มีความดุร้าย ประมาณ 200 ตัว อาทิเช่น เสือโคร่งขาว เสือโคร่งอินโดจีน เสือโคร่งเบงกอล สิงโต หมาป่า หมีควาย เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้โดยนั่งรถขนาด 60 ที่นั่งเป็นระยะทาง 2.13 กม.
จุดที่สาม คือ Savanna Safari ส่วนแสดงสัตว์ป่าประเภทสัตว์กีบและสัตว์กินพืชที่มีถิ่นอาศัยในแถบทุ่งหญ้าสะวันนา ประมาณ 320 ตัว อาทิเช่น เลียงผา กวางผา กระทิง แรดขาว ไฮยีน่า เสือชีต้า ฯลฯ โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะพบกับสถาปัตยกรรมจำลองเวียงกุมกาม ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และในพื้นที่ส่วนบริการจะเป็นหมู่บ้านล้านนา ซึ่งเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่ผสมผสานระหว่างแอฟริกาและไทยล้านนา ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร ศูนย์รวมสินค้า ของที่ระลึก และเป็นสถานีรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปยังส่วนแสดงสัตว์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับลานน้ำพุดนตรี (Fun Plaza) บริเวณด้านข้างของอาคารอีกด้วย
ในส่วนของอัตราค่าเข้าชม ค่าตั๋วช่วงเวลาเวลากลางวันจะถูกกว่าช่วงเวลากลางคืน โดยช่วงกลางวัน ค่าเข้าชมของคนไทย ผู้ใหญ่อยู่ที่ 50บาท และเด็ก 25บาท ในขณะที่ ช่วงกลางคืนค่าเข้าชมของคนไทย ผู้ใหญ่อยู่ที่ 250 บาท และเด็ก 125 บาท
นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถมาได้ตามเวลาเข้าชม ดังนี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-16.00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00 ส่วนช่วงกลางคืน เวลา 18.00-24.00 น. เปิดทุกวัน อีกทั้งยังมีบริการบ้านพักและสถานที่ตั้งเต็นท์พักแรมสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 05-399 -9079 หรือ เว็บไซต์ www.chiangmainightsafari.com
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://thai.tourismthailand.org